การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรประกอบกับการลดลงของพื้นที่ทางการเกษตร ส่งผลให้ความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรของโลกและของไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในปี 2553 ไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าปุ๋ยเคมีรายใหญ่ลำดับที่ 5 ของโลก มีการนำเข้าปุ๋ยเคมีประมาณ 5.4 ล้านตัน มูลค่า 64,249 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นปุ๋ยโพแทชทั้งปุ๋ยเชิงเดี่ยวและเชิงผสมประมาณ 1.5 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 21,446 ล้านบาท
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันประเทศไทยจะยังไม่มีการผลิตโพแทช แต่ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปริมาณสำรองโพแทชเป็นจำนวนมาก โดยโพแทชที่พบในประเทศไทยมี 2 ชนิดใหญ่ๆ ได้แก่ แร่ซิลไวต์ หรือโพแทชเซียมคลอไรด์ (KCl) ซึ่งเป็นโพแทชคุณภาพสูง และแร่คาร์นัลไลต์ (KMgCl3•6(H2O)) ซึ่งเป็นโพแทชคุณภาพต่ำกว่าเนื่องจากมีส่วนผสมของแมกนีเซียมอยู่ด้วย (มยุรี, 2550) แร่ทั้ง 2 ชนิดเป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยโพแทชชนิดต่างๆ ได้แก่ โพแทชเซียมคลอไรด์ (KCl) โพแทชเซียมซัลเฟต (K2SO4) โพแทชเซียมแมกนีเซียมซัลเฟต (K2SO4•2MgSO4) โพแทชเซียมไนเตรท (KNO3) ดังนั้น สถานการณ์และแนวโน้มโพแทชของโลกจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสนใจ โดยในบทความนี้จะนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ด้านอุปสงค์และอุปทานโพแทชในปี 2553 รวมทั้งแนวโน้มในปี 2554-2558
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดบทความได้นะครับ