กระทรวงอุตฯ จัดงาน Green Mining Award 2016 ยกระดับอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานไทย มุ่งสู่ Green Mining Standard
วันนี้ (30 ม.ค. 2560) 13.00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ รัชดา กรุงเทพฯ นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน Green Mining Award 2016 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อมอบรางวัลสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลเหมืองแร่เขียวและรักษามาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว ประจำปี พ.ศ. 2559 โดยในปีนี้มีสถานประกอบการได้รับรางวัลทั้งสิ้น 103 ราย ภายในงานมีการบรรยายให้ความรู้ด้านต่าง ๆ เพื่อที่จะยกระดับสถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐาน ให้มีการพัฒนาสู่มาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว หรือ Green Mining Standard
นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ โดยดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้น มิใช่ผู้ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีบทบาทในการสนับสนุนส่งเสริมด้านต่าง ๆ ควบคู่กันไป เพื่อทำให้ผู้ประกอบการมีมาตรฐานการประกอบการที่ดี ยกระดับมาตรฐานสถานประกอบการให้มีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน และการที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์น้ำ การฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ การอนุรักษ์ดิน และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน มาเป็นแนวทางในการส่งเสริมสถานประกอบการเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐาน ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีและเป็นมงคลกับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ
มาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จึงถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ ที่สถานประกอบการเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานควรใช้เป็นเครื่องมือในการสำรวจตรวจสอบตนเองว่าสิ่งที่ตนเองยึดถือปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันมีคุณภาพเพียงพอและเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร ซึ่งหากทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันแล้ว ก็จะทำให้ภาพลักษณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในสายตาของประชาชนทั่วไป จะเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น ต่อไปพอได้ยินคำว่า “เหมืองแร่” ประชาชนน่าจะคิดถึงคำว่า “ผู้พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน” มากขึ้น และจากการที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังจะมี พ.ร.บ.แร่ ฉบับใหม่ ซึ่งจะประกาศใช้ในเร็ววันนี้ โดยให้ความสำคัญกับการประกอบการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การมีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน การพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนโดยรอบมากขึ้น ฉะนั้นหากผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานเหมืองแร่สีเขียวแล้ว ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่าตนเองนั้นมีความพร้อมในการดำเนินการตามกฎหมายฉบับใหม่ได้อย่างแน่นอน
ด้านนายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการและกำกับดูแลอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐาน ได้ดำเนินการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐาน ยกระดับมาตรฐานการประกอบการของตนสู่มาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว ตามนโยบายเหมืองแร่สีเขียว (Green Mining Policy) โดยเน้นการทำงานเชิงรุก เพื่อผลักดันให้สถานประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม มีการฟื้นฟูเหมืองแร่และมีทัศนียภาพเรียบร้อย มีความปลอดภัยต่อคนงานและชุมชนโดยรอบ มีความโปร่งใส และมีการผลิตที่มีประสิทธิภาพ โดยมีการน้อมนำแนวพระราชดำริที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงงานตลอดระยะเวลาครองราชย์กว่า 70 ปี มาส่งเสริมให้สถานประกอบการเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานประกอบการของตนเอง และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ได้แก่ การอนุรักษ์น้ำ การฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ การอนุรักษ์ดิน และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน
ในปี 2559 ที่ผ่านมา กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้ดำเนินการส่งเสริมให้สถานประกอบการยกระดับและพัฒนาตนเองเข้าสู่มาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว โดยมีผู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินและได้รับรางวัลมาตรฐานเหมืองแร่สีเขียวสำหรับสถานประกอบการรายใหม่จำนวน 32 ราย และมีผู้ผ่านเกณฑ์การรักษามาตรฐานเหมืองแร่สีเขียวสำหรับสถานประกอบการรายเดิมที่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจำนวน 71 ราย