นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี
อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และนายสมบัติ
ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ร่วมลงนามความร่วมมือเพื่อหาแนวทางส่งเสริมพัฒนาการใช้ประโยชน์ยิปซัมสังเคราะห์ซึ่งเป็นผลผลิตพลอยได้ที่เกิดจากกระบวนการดีซัลเฟอร์ไรเซชั่นของควันก๊าซจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
จังหวัดลำปาง เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 ณ ห้องประชุม 201 อาคารสำนักผู้ว่า
(ท.100) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อำเภอบางกรวย
จังหวัดนนทบุรี |
จากการที่ในแต่ละปีกระบวนการกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซต์จากการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยถ่านหิน
หรือที่เรียกว่ากระบวนการดีซัลเฟอร์ไรเซชั่นของควันก๊าซ (Flue Gas
Desulfurization Gypsum) จากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
ทำให้เกิดผลผลิตพลอยได้เป็นยิปซัมสังเคราะห์ปีละมากกว่า 2 ล้านตัน
ซึ่งจากการทดลองในเบื้องต้น
พบว่ายิปซัมสังเคราะห์น่าจะสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรได้อย่างหลากหลาย
เช่น ใช้ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ อุตสาหกรรมยิปซัมบอร์ด
อุตสาหกรรมผลิตเบียร์ ใช้ในงานด้านทันตกรรม
และใช้ในการปรับปรุงคุณภาพดิน เป็นต้น ดังนั้น
หากมีการศึกษาวิจัยและพัฒนาอย่างเหมาะสมจะสามารถนำยิปซัมสังเคราะห์
มาใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมของประเทศได้
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
จึงร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ดำเนินการหาแนวทางส่งเสริมและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากผลผลิตพลอยได้ดังกล่าว |
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันศึกษาวิจัยพัฒนาหาแนวทางการใช้ประโยชน์ยิปซัมสังเคราะห์
นำเสนอนโยบายและมาตรการเพื่อจูงใจให้มีการใช้ยิปซัมสังเคราะห์เป็นวัตถุดิบในการผลิต
และจะผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาให้มีการนำยิปซัมสังเคราะห์มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแล้ว
ยังเป็นการช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการผลิตกระแสไฟฟ้า
และช่วยลดปริมาณการใช้ทรัพยากรแร่ยิปซัมจากธรรมชาติ
รวมทั้งสามารถผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ได้อีกทางหนึ่ง |
บรรยากาศพิธีลงนาม
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|