กพร. ยืนยันการทำเหมืองไม่มีส่วนทำให้เกิดดินถล่มในพื้นที่น้ำท่วม
ผู้ประกอบการในพื้นที่ร่วมกันให้ความช่วยเหลือประชาชน
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า การเกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงและมีดินถล่มโดยเฉพาะบนเทือกเขาต่าง ๆ โดยเฉพาะบนเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กล่าวว่า เต็มไปด้วยการทำเหมือง และเหมืองหลายแห่งก็เป็นเหมืองเถื่อน บางเหมืองแม้ได้รับอนุญาตแต่ก็เคยถูกร้องเรียนว่าทำเกินพื้นที่ซึ่งก็คือเหมืองเถื่อนเหมือนกัน
นายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ แถลงว่า พื้นที่บริเวณที่มีการทำเหมืองแร่บนภูเขาตามที่เป็นข่าว มี 2 บริเวณ ได้แก่ หมู่เหมืองแร่เฟล์ดสปาร์ ตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช และหมู่เหมืองแร่แบไรต์ ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้มีการตรวจสอบพื้นที่ทั้ง 2 บริเวณ พบว่า
1. หมู่เหมืองแร่เฟล์ดสปาร์ ตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีประทานบัตร จำนวน 4 แปลง พื้นที่เป็นหินแกรนิตแข็งและมีสายแร่เฟลด์สปาร์แทรก สภาพพื้นที่ที่มีการทำเหมืองมีความมั่นคงแข็งแรง มิได้มีดินหินถล่มจากพื้นที่การทำเหมืองแต่อย่างใด
2. หมู่เหมืองแร่แบไรต์ ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีประทานบัตร จำนวน 2 แปลง สภาพหน้าเหมืองและพื้นที่การทำเหมืองเป็นหินปูน มีความมั่นคงแข็งแรง มิได้มีการพังทลายแต่อย่างใด
กรณีดินถล่มในพื้นที่บนเขาหลวง ซึ่งเป็นคนละพื้นที่กับพื้นที่ที่มีการทำเหมือง เป็นไปตามธรรมชาติของพื้นที่ภูเขาในภาคใต้ เนื่องจากฝนตกหนัก น้ำฝนมีปริมาณมากกว่าปกติ ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนภัยดินถล่มจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การอนุญาตประทานบัตรทำเหมืองแร่ ผู้ขอประทานบัตรจะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการด้านเหมืองแร่ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความเห็นชอบก่อน ซึ่งรายงานดังกล่าวได้กำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบจากการทำเหมือง ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงแข็งแรงของหน้าเหมือง การป้องกันดิน-หินถล่ม ตลอดจนการป้องกันมลภาวะที่เกิดจากการทำเหมือง ซึ่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้กำกับดูแลการทำเหมืองให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม กรณีเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่เหมืองแร่ทุกแห่ง หากพื้นที่บริเวณใดมีความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายจากการทำเหมือง จะกำหนดมาตรการและสั่งการให้แก้ไขปรับปรุงทันที รวมทั้ง หากพบการทำเหมืองออกนอกเขตพื้นที่ประทานบัตร หรือการทำเหมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้แม้ว่าผู้ประกอบการเหมืองแร่ในพื้นที่ภาคใต้จะได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมเนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาด แต่ผู้ประกอบการในพื้นที่และผู้ประกอบการสมาชิกเครือข่าย CSR-DPIM ของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ยังร่วมกันให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ทั้งเงินช่วยเหลือ ถุงยังชีพ และการนำเครื่องจักรอุปกรณ์ออกไปซ่อมแซมสะพานและเส้นทางคมนาคมให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถเดินทางสัญจรได้ตามปกติ นายสมบูรณ์ กล่าวทิ้งท้าย