กพร. เร่งหารือด้านกฎหมายการขนแร่ออกนอกพื้นที่เหมืองทอง หลังมีคำสั่ง คสช. ได้หรือไม่
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลย เร่งหารือข้อกฎหมาย ก่อนชี้ชัดบริษัท ทุ่งคำ จำกัด สามารถขนแร่ออกนอกพื้นที่เหมืองได้หรือไม่ พร้อมสั่งให้บริษัทฯ ยุติการขนแร่แล้ว
นายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ชาวบ้านคัดค้านการขนแร่ทองคำออกจากพื้นที่เหมือง อ.วังสะพุง จ.เลย นั้น จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ปรากฏว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นการดำเนินการในพื้นที่ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ซึ่งได้หยุดดำเนินการมาประมาณ 4 ปี โดยได้มีการนำรถบรรทุก จำนวน 11 คัน เพื่อเตรียมขนแร่ทองแดงที่มีทองคำและเงินเจือปน จำนวน 190 ถุงบิ๊กแบ็ก ซึ่งแร่ที่บริษัทฯ จะขนดังกล่าวเป็นแร่เก่าที่ตกค้างอยู่ในกระบวนการแต่งแร่ก่อนที่บริษัทฯ จะหยุดการทำเหมือง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 72/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ได้รับประทานบัตรและใบอนุญาตต่าง ๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ระงับการประกอบกิจการไว้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป จนกว่าคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติจะมีมติเป็นอย่างอื่น ดังนั้น ขณะนี้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลย ได้สั่งให้บริษัทฯ ยุติการขนแร่ออกนอกพื้นที่ก่อน ซึ่งบริษัทฯ ได้ยินยอมขนแร่ลงจากรถบรรทุกแล้ว เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 เพื่อรอการพิจารณาในประเด็นด้านข้อกฎหมาย
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดเลย จะได้มีการประชุมหารือร่วมกันถึงข้อกฎหมายว่า การขนแร่ของบริษัทฯ จะสามารถกระทำได้เพียงใด หลังมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 72/2559 ดังกล่าว นอกจากนี้ การขนแร่ ผู้ประกอบการต้องได้รับใบอนุญาตขนแร่ และดำเนินการชำระค่าภาคหลวงแร่ก่อนดำเนินการขนแร่
22 กุมภาพันธ์ 2560