|
คำถามเป็นคำถามกำกวม ไม่ทราบเจตนาที่แท้จริง แต่พอจะตอบได้คร่าวๆว่า ค่าภาคหลวงแร่เป็นเงินรายได้ที่ทางราชการเรียกเก็บจากผู้ทำเหมืองแร่(ผู้ถือประทานบัตร) ได้นำแร่ออกจากเขตประทานบัตรเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ตามจำนวนที่ผู้ถือประทานบัตรนำแร่ออกไปจากเขตเหมืองแร่ (ตามอัตราพิกัดค่าภาคหลวงแร่) ส่วนการต่ออายุประทานบัตร เป็นเรื่องที่ทางราชการโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ลงนามออกประทานบัตรและมีกำหนดระยะเวลาไม่ถึง 25 ปี ซึ่งผู้ถือประทานบัตรเมื่อทำเหมืองแร่แล้วแต่ปรากฏว่าพื้นท่ที่ทำเหมืองหรือยังมีแร่อยู่ในประทานบัตรแต่ใบประทานบัตรใกล้หมดอายุ และยังประสงค์จะทำเหมืองแร่ต่อ สามารถขอต่ออายุได้อีกแต่ทั้งนี้เมื่อรวมอายุที่ได้รับอนุญาตมาก่อนหน้านี้ รวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 25 ปี แต่ทั้งนี้ผู้ถือประทานบัตรจะต้องไปยื่นคำขอต่ออายุประทานบัตร ณ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดที่ตั้งประทานบัตรนั้น ไม่น้อยกว่า 180 วัน ก่อนประทานบัตรสิ้นอายุ หากมีระยะเวลาไม่ถึง 180 วัน ไม่สามารถขออายุประทานบัตรได้ ต้องยื่นคำขอประทานบัตรใหม่และดำเนินการตามขั้นตอนการขออนุญาตตามระเบียบ กพร.ต่อไป เมื่อทางราชการได้รับคำขอต่ออายุประทานบัตรแล้วผู้ขอฯจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบ กพร.ต่อไป สำหรับในส่วนการชำระค่าภาคหลวงน่าจะมาเกี่ยวข้องตอนที่ขอต่ออายุประทานบัตรและทางราชการตรวจสอบว่าได้ชำระค่าภาคหลวงไปแล้วทั้งหมดเท่าใด สอดคล้องกับการประเมินมูลค่าแร่จากรายงานธรณีวิทยาหรือไม่ สมควรจะอนุญาตให้ต่ออายุประทานบัตรอีกกี่ปี คงจะเป็นอย่างนั้น
|
|
จากคุณ :
ฝ.พร.
เมื่อ
28/04/2009 13:29:26 |
|