หน้าแรก เกี่ยวกับกรม เหมืองแร่เพื่อชุมชน กฎหมาย ถาม-ตอบ ติดต่อกรม แผนผังเว็ปไซต์ ข่าว RSS
 
สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 1 สงขลา ร่วมงานกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเหมืองลาบู อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560

          

 

          สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 1 สงขลา ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 นำโดย พล.ท. ปิยวัฒน์  นาควานิช มทภ.4/ผอ.รมน. ภาค 4 คณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ กอ.รมน. ภาค 4  นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและคณะ นายอำเภอยะหา หน่วยงานราชการและเอกชนในพื้นที่จังหวัดยะลา คณะผู้สื่อข่าววิทยุโทรทัศน์ กลุ่มจักรยานยนต์ Big Bike กลุ่มจักรยานยนต์ Msx กลุ่มนักปั่นจักรยาน ศิลปินดาราและประชาชนบ้านเหมืองลาบูและใกล้เคียง ร่วมงานกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเหมืองลาบู “เบิกฟ้าลาบู สู่อาเซียน” ณ บ้านเหมืองลาบู หมู่ที่ 8 ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา  

         ในวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่ดีบุกที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีตภายใต้ชื่อ เหมืองแร่ลาบู หรือ เหมืองฟักทอง และด้วยความเจริญรุ่งเรืองของการทำเหมืองแร่ดีบุกในอดีตในพื้นที่เหมืองแร่บ้านลาบู จึงได้นำลักษณะภูมิประเทศและกิจกรรมการทำเหมืองแร่ลาบูมาจำลองเป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดยะลา สำหรับจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ เรือนรับรอง 100 ปี หรือบ้านฝรั่งซึ่งในอดีตเป็นเรือนรับรองของเหมืองลาบู อุโมงค์แร่ประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์เหมืองลาบู จุดชมวิวทะเลหมอก กม.8 น้ำตกนกน้อย ฯลฯ  

          ถือเป็นกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวเหมืองลาบูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ในพื้นที่จังหวัดยะลาและจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย การปั่นจักรยานพิชิตเหมืองลาบู การแข่งขันฟุตซอลทีมคู่พิเศษ ระหว่างทีมรวมวีไอพีกับทีมรวมศิลปินดารา การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงของศิลปินหลวงไก่และศิลปินนักร้องชาวมาเลเซีย

 

 

 

 

 

 

                    

 

 

 

 

 

            คำให้สัมภาษณ์ต่อสื่อของ พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน. ภาค 4 ในงาน “เบิกฟ้าลาบูสู่อาเซียน” ที่หมู่บ้านเหมืองลาบู หมู่ที่ 8 ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ว่า “โดยมีการปรับปรุงพื้นที่เหมืองแร่เก่า ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่อนำความเจริญ การสร้างงาน สร้างรายได้สู่พื้นที่ และเจ้าหน้ารัฐจะเข้ามาดูความปลอดภัยให้ส่วนการทำสัมปทานเหมืองในพื้นที่บ้านเหมืองลาบู ขณะนี้อยู่ขั้นตอนการสำรวจ แต่มีแนวโน้มในการเปิดให้ดำเนินการ ซึ่งเป็นตามขั้นตอนของกฎหมาย และมีการทำประชาพิจารณ์จากคนในพื้นที่ก่อน ถ้าทำได้สำเร็จที่นี่จะเป็นจุดทำเหมืองแร่ดีบุกเป็นจุดแรกของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากที่มีการหยุดการทำเหมืองแร่ดีบุกในพื้นที่”

             สำหรับเหมืองลาบู เดิมทีมีชาวออสเตรเลีย เข้ามาทำเหมืองแร่ดีบุก ชื่อเหมืองฟักทอง และมีการก่อสร้างที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รองรับ ​โดยคนงานส่วนใหญ่ เป็นคนจีนจากสิงค์โปร์ และมาเลเซีย ต่อมาหลวงสุนทรสิทธิโลหะ (นายซุ่นฮวด วัฒนายากร) ได้ซื้อกิจการและเปลี่ยนชื่อเป็น เหมืองแร่ลาบู (ภาษาอิสลาม ลาบู แปลว่า ฟักทอง) โดยใช้คนงานจากภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ (จังหวัดนครศรีธรรมราช) และได้เลิกกิจการการทำเหมืองแร่ดีบุกเมื่อปี พ.ศ. 2535 คนงานเหมืองแร่จึงได้จับจองพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบอาชีพปลูกยางพาราและผลไม้ เป็นชุมชนไทยพุทธและมุสลิม เรียกว่า หมู่บ้านเหมืองลาบู


 
Copyright©2009 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่. All Right Reserved.
75/10 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400.
โทร.0-2430-6835 โทรสาร.0-2644-8746
  นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายและแนวทางปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ | ไซเบอร์